
มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colorectal cancer) เป็นมะเร็งที่พบบ่อย 1 ใน 5 ของประเทศไทย มีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยพบมากเป็นอันดับ 3 ในเพศชาย และอันดับ 4 ในเพศหญิง (ที่มา : สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข)
“การตรวจหาความผิดปกติที่ระบบทางเดินอาหารและตับในระยะเริ่มแรก ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งระบบทางเดินอาหารและตับได้”
โรคระบบทางเดินอาหารและตับมีอะไรบ้าง ?
โรคเกี่ยวกับหลอดอาหาร
|
โรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร
|
โรคเกี่ยวกับลำไส้
|
โรคเกี่ยวกับทางเดินน้ำดี
|
โรคเกี่ยวกับตับ
|
จะทราบได้อย่างไรว่า...ระบบทางเดินอาหารและตับทำงานผิดปกติ ?
ปัจจุบันปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินอาหารและตับเพิ่มมากขึ้นทั้งทางกายภาพ เช่น อาหาร อากาศ วิถีการดำเนินชีวิต และการถ่ายถอดทางพันธุกรรมที่กำลังเป็นปัญหาต่อการดำเนินชีวิตของคนในสังคม เนื่องจากระบบทางเดินอาหารและตับ มีการทำงานที่ซับซ้อน จึงต้องการการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
“การตรวจหาความผิดปกติที่ระบบทางเดินอาหารและตับในระยะเริ่มแรก ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งระบบทางเดินอาหารและตับได้”
หากคุณมีอาการเหล่านี้ตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป คุณอาจมีความเสี่ยงโรคระบบทางเดินอาหารและตับ
ปวดจุกแน่นท้องใต้ลิ้นปี่ใต้ชายโครงด้านซ้ายเหนือสะดือ เป็นๆ หายๆ
ปวดท้องเรื้อรัง รักษาไม่หายขาด
เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลีย
ท้องอืด อาหารไม่ย่อย
กลืนอาหารลำบาก หรือกลืนแล้วเจ็บ
อาเจียนบ่อย หรืออาเจียนติดต่อกันโดยไม่ทราบสาเหตุ
อาเจียนเป็นเลือด
ซีด มีภาวะโลหิตจาง
ถ่ายอุจจาระมีมูก หรือมีสีดำ
ท้องผูก สลับท้องเสีย
ความสำคัญของการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่ (Colorectal cancer) ส่วนหนึ่งป้องกันได้หากหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ และตรวจคัดกรองตั้งแต่ในระยะเริ่มแรก จะทำให้การรักษาได้ผลดี และเสียค่าใช้จ่ายน้อยกว่า โดยผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป ควรตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่โดยไม่ต้องรอให้มีอาการผิดปกติ (ที่มา : WHO guideline 2018)
ใครบ้างที่ควร เข้ารับการตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) ?
บุคคลทั่วไปที่มีอายุเกิน 45 ปีขึ้นไป
คนที่มีปัจจัยเสี่ยงควรเริ่มตั้งแต่อายุ 35-40 ปีขึ้นไป
คนที่มีอาการทางลำไส้ที่ผิดปกติ ไม่จำกัดอายุ
ปวดท้องไม่ทราบสาเหตุ
ขับถ่ายผิดปกติ หรือมีเลือดปนในอุจจาระ
น้ำหนักตัวลดลงไม่ทราบสาเหตุ
มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) อันตรายไหม ?
เนื่องจากระบบทางเดินอาหารและตับ มีการทำงานที่ซับซ้อน จึงต้องการการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ (Gastrointestinal&Liver Center) พร้อมด้วยทีมอายุรแพทย์ ศัลยแพทย์ระบบทางเดินอาหาร วิสัญญีแพทย์ รังสีแพทย์ และแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านเคมีบำบัด พร้อมให้บริการตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยในระยะเริ่มต้น การป้องกันโรคระบบทางเดินอาหารและตับทั้งระบบ ทั้งนี้การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) สามารถตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ ติ่งเนื้อ ก้อนเนื้อที่ผิดปกติ โรคลำไส้อักเสบ ฯลฯ โดยไม่มีความน่ากลัวและอันตรายแต่อย่างใด
สามารถทำได้ภายในหนึ่งวันเพียงแค่ งดน้ำ และอาหารมา 6-8 ชม.
ระยะเวลาทำ 20-30 นาที
ทำในขณะหลับ โดยได้รับยานอนหลับแบบฉีด ไม่เจ็บ
สามารถกลับบ้านได้หลังจากทำเสร็จ
FAQs :
-
ส่องกล้องทางเดินอาหารควรทำกี่ปีครั้ง ?
การส่องกล้องทางเดินอาหารเป็นการตรวจหาความผิดปกติที่ลำไส้ได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มแรก ลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งลำไส้ได้ 60% ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคมะเร็ง ควรตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่โดยไม่ต้องให้มีอาการผิดปกติ
-
ส่องกล้องลำไส้ใหญ่ใช้เวลากี่นาที ?
การส่องกล้องลำไส้ใหญ่ (Colonoscopy) สามารถตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของลำไส้ใหญ่ ติ่งเนื้อ ก้อนเนื้อที่ผิดปกติ โรคลำไส้อักเสบ ฯลฯใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที
- - สามารถทำได้ภายในหนึ่งวันเพียงแค่ งดน้ำ และอาหารมา 6-8 ชม.
- - ระยะเวลาทำ 20-30 นาที
- - ทำในขณะหลับ โดยได้รับยานอนหลับแบบฉีด ไม่เจ็บ
- - สามารถกลับบ้านได้หลังจากทำเสร็จ
อ้างอิง :
แนะนำบริการศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ
https://www.nonthavej.co.th/gastrointestinal-system-and-liver-clinic-section1.php
โปรแกรมตรวจค้นหาความเสี่ยงโรคระบบทางเดินอาหาร
https://www.nonthavej.co.th/digestive-system.php
บทความ เรื่อง มะเร็งลำไส้ใหญ่ ตรวจพบไว รักษาได้
https://www.nonthavej.co.th/Colorectal-cancer-H.php
นพ. อานนท์ พีระกูล
อายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ
ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ