โรคนิ้วล็อค
สาเหตุ
อาการแบ่งเป็น
ระยะที่ 1 : มีอาการปวดตึง งอสะดุดบ้าง กดเจ็บบริเวณข้อโคนนิ้วทางด้านหน้ายังงอเหยียดได้เต็มที่
ระยะที่ 2 : งอนิ้วสะดุดนิ้วติดเหยียดไม่ออกต้องช่วยง้างออก
ระยะที่ 3 : งอนิ้วไม่ได้ หรืองอได้แล้วนิ้วติดเหยียดไม่ออกต้องช่วยง้างออก
ระยะที่ 4 : นิ้วติดอยู่นาน ข้อนิ้วยึดติด
การรักษา
- การกินยา NSAID
- แช่น้ำอุ่น
- ทายา ค่อยๆ บริหารเหยียดนิ้วทุกวัน
อาการขั้นที่ 3 และ 4
ใช้วิธี
- ฉีดยาสเตียรอยด์ เข้าบริเวณปลอกหุ้มเอ็น ซึ่งจะต้องผสมยาชาเพื่อไม่ให้ผู้ป่วยปวดมาก
- บริหารเหยียดนิ้ว และไม่ควรฉีดยาเกิน 2 ครั้ง ถ้าไม่หายหรือหายแล้วกลับมาเป็นซ้ำอีก แนะนำให้ผ่าตัด เนื่องจากการฉีดยาบ่อยๆจะทำให้เอ็นเปื่อยและขาดได้
การผ่าตัดรักษา
การดูแลหลังผ่าตัด
การป้องกันโรคนิ้วล็อค
1. ไม่หิ้วของหนักเช่น ถุงพลาสติก ตะกร้า ถังน้ำ แต่หากจำเป็นควรมีผ้าขนหนูรอง และให้น้ำหนักตกที่ฝ่ามือหรือใช้วิธีอุ้มประคองหรือนำใส่ รถลาก
2.ไม่ควรบิดผ้าแรงๆ เพราะจะทำให้ปลอกหุ้มเอ็น บวมซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโรคนิ้วล็อคควรซักผ้าด้วยเครื่อง
3. นักกอล์ฟที่ต้องตีแรง ตีไกล ควรหลีกเลี่ยงใช้ก้านเหล็กตีกอล์ฟขณะปวด ควรเปลี่ยนก้านไม้กอล์ฟเป็นก้าน Fiber ชั่วคราว
4. หลีกเลี่ยงงานที่มีแรงสั่นสะเทือน หรือควบคุมเครื่องจักร เช่น ไขควง กรรไกรตัดกิ่งไม้ เลื่อย ค้อน ควรใส่ถุงมือหรือหุ้มด้ามจับให้นุ่มขึ้น
5. ควรหลีกเลี่ยงการยกของด้วยมือเปล่า และควรใช้เครื่องทุ่นแรง เช่น รถเข็น รถลาก
6. งานที่ต้องทำต่อเนื่องนานๆควรพักมือเป็นระยะ
วิธีคลายปวดจากข้อนิ้วล็อค
1. ขยับนิ้ว+แช่มือในน้ำอุ่นตอนเช้าๆ 5-10 นาที
2. เมื่อต้องกำ หรือจับสิ่งของแน่นๆ ควรดัดแปลงอุปกรณ์ให้ด้ามจับนุ่มขึ้น
นพ.ชัชวาล ปิยะวรรณสุทธิ์
ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เฉพาะทางศัลยกรรมกระดูกสันหลัง