มะเร็งเต้านม จัดว่าเป็นมะเร็งที่พบบ่อยอันดับ 1 ของผู้หญิงไทยและเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆ ของผู้หญิงทั่วโลก ในปัจจุบันมีการตื่นตัวในการตรวจสุขภาพมากขึ้น ทำให้เราพบมะเร็งเต้านมในระยะแรกได้เร็ว การรักษาหายขาดจึงมีมากขึ้นตามไปด้วย
หากสาวๆ คนไหนเป็นมะเร็งเต้านมและจะต้องผ่าตัด ”เต้านม” อาจทำให้บางคนรู้สึกว่าเป็นการสูญเสียความเป็นผู้หญิงไป เกิดปมด้อยและขาดความมั่นใจในตัวเอง ทั้งในด้านภาพลักษณ์และความสุขในชีวิตคู่
ความกังวลเหล่านั้นจะหมดไปด้วยวิวัฒนาทางการแพทย์ที่ไม่เคยหยุดนิ่งกับ การผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมขึ้นใหม่ด้วยผิวหนังและไขมันบริเวณหน้าท้อง (TRAM Flap) เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ศูนย์รักษ์เต้านม (Breast Cancer Center) โรงพยาบาลนนทเวช นำมาใช้การรักษาเพื่อช่วยให้ผู้เป็นมะเร็งมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ
- นพ.ชนินทร์ อภิวาณิชย์ ศัลยแพทย์ประจำศูนย์รักษ์เต้านม โรงพยาบาลนนทเวช อธิบายว่า การผ่าตัดเต้านมเพื่อรักษาผู้ป่วยมีหลายรูปแบบ คือ
- - ผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมด เพื่อไม่ให้มีมะเร็งเหลือที่เต้านม
- - ผ่าตัดแบบเก็บรักษาเต้านม คือ การตัดก้อนมะเร็งออกไปแต่เก็บเต้านมไว้ วิธีนี้ก็ต้องทำร่วมกับการฉายรังสีที่เต้านมด้วย โดยฉายทุกวันติดต่อกันประมาณ 5 สัปดาห์ วิธีนี้เหมาะกับผู้ป่วยบางรายที่มีเต้านมพอสมควรหรือเต้านมหย่อนคล้อย
- - การผ่าตัดเสริมสร้างเต้านมใหม่ เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับคนที่เป็นมะเร็งเต้านม วิธีนี้มีมาหลายปีแล้วแต่ไม่ค่อยมีคนรู้ และไม่เป็นที่นิยม เพราะผู้ป่วยคิดว่าระยะเวลาผ่าตัดอาจต้องใช้เวลามากขึ้น มีผลข้างเคียงไหม พักฟื้นนานขึ้นหรือไม่ ซึ่งในความเป็นจริงจะใช้เวลาผ่าตัดนานขึ้นกว่าเดิมไม่กี่ชั่วโมง และพักฟื้นเพียงไม่กี่วัน
การผ่าตัดเสริมเต้านมใหม่ทำอย่างไร?
ก่อนอื่นต้องตัดเนื้อเต้านมออกทั้งหมดก่อน โดยเก็บรักษาผิวหนังที่คลุมเต้านมไว้ แล้วผ่าตัดโดยใช้เนื้อเยื่อของตัวเองบริเวณหน้าท้องหรือบริเวณหลังด้านข้าง มาทำเป็นเต้านมใหม่ซึ่งสามารถผ่าตัดไปพร้อมๆ กับการตัดเต้านมทิ้งแต่จะขึ้นอยู่กับระยะของโรคมะเร็งด้วย ซึ่งการผ่าตัดเสริมเต้านมสำหรับบางคนนั้นก็อาจต้องให้มะเร็งหายก่อน ในอดีตศัลยแพทย์ที่รักษามะเร็งมักเห็นว่า ถ้าการผ่าตัดเสริมหน้าอกทันที ไม่ควรจะทำจนกว่าคนไข้จะได้รับการฉายแสงหรือเคมีบำบัดแล้ว
แต่ปัจจุบันนี้มีการยอมรับการผ่าตัดเสริมหน้าอกทันทีมากขึ้น แพทย์ก็จะใช้การผ่าตัดครั้งเดียวกับการตัดเต้านมทิ้ง ทำให้ไม่ต้องผ่าตัดสองครั้ง เจ็บปวดซ้ำ 2 หน แล้วก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
นพ.ชนินทร์ อธิบายต่อว่า “สำหรับผู้ป่วยบางคนอาจรู้สึกว่าตัวเองเป็นมะเร็งแล้วทำไมต้องนึกถึงความสวยงามอีก ซึ่งสังคมหรือคนรอบข้างมักพูดจนทำให้ผู้ป่วยรู้สึกว่า จะเก็บเต้านมไว้ทำไม? จะมีเต้านมไว้เพื่ออะไร? ซึ่งไม่เหมือนต่างประเทศที่เค้ายอมรับประเด็นนี้ ซึ่งแพทย์จะอธิบายว่ามันก็เหมือนเป็นการผ่าตัดในตำแหน่งที่คุ้นเคย เช่น ผ่าตัดคลอด ผู้หญิงจะรู้อยู่แล้วว่าผ่าตัดตรงไหน หรือบางคนมีพุง เราจะแนะนำว่าการผ่าตัดมะเร็งจะเอาเต้านมออก แล้วเอาเนื้อหน้าท้องขึ้นไปทำเต้านมให้ดูสวยงาม คนไข้จะรู้สึกดีว่าได้ลดหน้าท้องไปด้วยในตัว ซึ่งถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง”
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การตรวจสุขภาพ และเป็นคนช่างสังเกตดูว่าเรามีสิ่งใดผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไปควรได้รับการตรวจมะเร็งเต้านมอย่างน้อย ปีละครั้งเพื่อค้นหารอยโรคซ่อนเร้น เมื่อพบสิ่งผิดปกติควรรีบพบแพทย์ เพื่อการรักษาอย่างทันท่วงที
- โดย นพ.ชนินทร์ อภิวาณิชย์
- ศัลยแพทย์
- ศูนย์รักษ์เต้านม (Breast Cancer Center)
- โทร. 0-2596 - 7888 ต่อ 7906, 2326