สุขภาพดีเริ่มได้...ที่ตัวคุณ
อัลตร้าซาวด์ช่องท้อง...บอกความผิดปกติของโรคใดได้บ้าง
ปัจจุบันปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคระบบทางเดินอาหารและตับเพิ่มมากขึ้นทั้งทางกายภาพ เช่น อาหาร อากาศ วิถีการดำเนินชีวิต และการถ่ายถอดทางพันธุกรรมที่กำลังเป็นปัญหาต่อการดำเนินชีวิตของคนในสังคม โรคเกี่ยวกับหลอดอาหาร, กระเพาะอาหาร, ลำไส้, ตับ, ทางเดินน้ำดี และมะเร็งระบบทางเดินอาหารต่างๆ
การตรวจอวัยวะภายในช่องท้องด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasound Abdomen) เป็นการตรวจโดยใช้คลื่นความถี่สูง เพื่อประเมินโครงสร้างของอวัยวะในช่องท้อง ด้วยการเคลื่อนหัวตรวจไปตามผิวหน้าท้อง โดยคลื่นเสียงจะแปรผลในลักษณะภาพไปยังจอมอนิเตอร์ เพื่อช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคต่างๆ
- • หาความผิดปกติของถุงน้ำดี ตรวจหานิ่ว ถุงน้ำดีอักเสบ มะเร็งถุงน้ำดี เนื้องอกถุงน้ำดี
- • หาความผิดปกติของตับ
- • หาความผิดปกติของตับอ่อน
- • หาความผิดปกติของม้าม
- • หาความผิดปกติของไต ตรวจหานิ่วในเนื้อไต และท่อไต
- • หาความผิดปกติของ มดลูก, ต่อมลูกหมาก ตรวจหาเนื้องอกในมดลูกและ รังไข่ ก้อนเนื้อในอุ้งเชิงกราน
- • หาความผิดปกติของไส้ติ่ง
- • ความผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ
- • ดูการแพร่กระจายของมะเร็งไปยังต่อมน้ำเหลือง
รู้เร็ว วางแผนการรักษาได้ทัน ก่อนที่โรคจะลุกลาม
ใครบ้างที่ควรตรวจ?
-
• ชาย/ หญิง อายุ 50 ปี ขึ้นไป
-
• ผู้ที่มีความผิดปกติ อาหารไม่ย่อย ท้องอืด จุกเสียด
-
• ผู้ที่มีความผิดปกติระบบขับถ่าย
-
• ผู้ที่เคยตรวจสุขภาพประจำปีทุกปี แต่ไม่เคยตรวจอัลตร้าซาวด์
ทั้งนี้ระบบทางเดินอาหารและตับ มีการทำงานที่ซับซ้อน จึงต้องการการดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ศูนย์ระบบทางเดินอาหารและตับ (Gastrointestinal&Liver Center) โรงพยาบาลนนทเวช พร้อมด้วยทีมอายุรแพทย์ ศัลยแพทย์ระบบทางเดินอาหาร วิสัญญีแพทย์ รังสีแพทย์ และแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านเคมีบำบัด -พร้อมให้บริการตั้งแต่การตรวจวินิจฉัยในระยะเริ่มต้น การป้องกันโรคระบบทางเดินอาหารและตับทั้งระบบ ได้แก่ โรคเกี่ยวกับหลอดอาหาร, กระเพาะอาหาร, ลำไส้, ตับ, ทางเดินน้ำดี และรักษามะเร็งระบบทางเดินอาหาร
ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. - 31 ธ.ค. 2567
@nonthavej.hospital