ชีวิตนี้ขอฝากไว้ที่นนทเวช

ชีวิตนี้ขอฝากไว้ที่นนทเวช

   แต่งงานมา 10 ปี ก็ไม่รู้ว่าทำไมไม่มีลูก เลยมาปรึกษาคุณหมอ และตรวจเจอเนื้องอกขนาดเท่าลูกปิงปอง แถมตอนหลังมันโตตามเวลาที่ล่วงเลยไป คุณหมอเลยแนะนำให้เอาออก เผื่อจะได้มีลูกด้วย

   ตอนที่เป็นมีอาการ คือ เวลามีประจำเดือนก็ปวดท้อง แต่คิดว่าเป็นเรื่องปกติของผู้หญิง จนอาการปวดมากขึ้น แต่ยังหลอกตัวเองว่าปกติ เพราะไม่มีอาการอื่นนอกจากปวดท้อง มีเพื่อนรุ่นพี่แนะนำให้มาปรึกษาคุณหมอประทีป พอตรวจละเอียดแล้วก็เจอเนื้องอกในกล้ามเนื้อมดลูก

   แต่เรามุ่งเรื่องมีลูกอย่างเดียวและคิดว่าเดี๋ยวตอนผ่าคลอดก็เอาออกไปด้วย ซึ่งคุณหมอประทีปบอกว่าถ้าคุณไม่เอาเนื้องอกออก ทำเด็กหลอดแก้วคงสำเร็จยาก เพราะว่าเหมือนอู่ข่าวอู่น้ำเราไม่ดี แล้วจะติดได้ยังไง คุณหมอเลยนัดวันผ่าตัดเพราะเนื้องอกมันโตขึ้นทุกวัน และแนะนำผ่าตัดผ่านกล้องดีกว่า เพราะเราทำงานเป็นแอร์กราวน์ (พนักงานต้อนรับภาคพื้นดิน) แล้วต้องเดินบ่อย เพราะว่าจะได้ฟื้นตัวเร็ว เพราะถ้าผ่าเปิดหน้าท้องเราต้องพักเป็นเดือน แล้วไปทำงานก็ไม่รู้จะไหวรึเปล่า จริงๆ ต้องพักรักษาตัวอาทิตย์นึงแต่นี่แค่ 3 วันก็ไปทำงานได้แล้วค่ะ

   ตอนผ่าตัดหมอสอดกล้องจากสะดือผ่านผนังหน้าท้องเราไป เหมือนเราเจาะสะดือ เป็นแผลเล็ก ๆ ทั้งด้านซ้ายและขวา แล้วเราก็สลบพอตื่นขึ้นมาก็เจ็บๆ ตึงๆ บริเวณ 4 แผลเล็กๆ เพราะปัญหาเราเยอะไง ไหนจะเป็นเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ แต่มีก้อนเนื้องอกลูกเดียว คุณหมอเค้าต้องซอยเนื้อด้วยเครื่องมือตัดย่อยชิ้นเนื้อ เพราะมันใหญ่ แล้วแผลมันเล็กไงค่ะ และจัดการพังพืดที่อยู่ตามมดลูกด้วย

   หลังจากแผลหายประมาณ 1 เดือนก็กลับมาพบคุณหมออีกครั้งตามนัด เพื่อที่จะดูฮอร์โมนและใช้วิธีธรรมชาติในการมีลูก ตอนนี้ท้องลูกคนที่ 2 แล้วค่ะ แต่ต้องมาตรวจอีกถ้าอยากมีลูกเพราะคนที่เคยเป็นแล้วจะมีโอกาสเป็นอีก และให้ดูแลเรื่องอาหารการกิน เมื่อก่อนเคยไปโรงพยาบาลดัง ๆ เรื่องมีลูกยาก เค้าก็จะเชียร์ให้ทำแต่เด็กหลอดแก้ว แต่ชอบที่นี่เพราะดีทั้งบริการ และที่สำคัญชอบคุณหมอประทีป ท่านไม่โกหกไม่เคยเชียร์การทำเด็กหลอดแก้ว และจะแนะนำเรื่องการรักษา บุคลากรเป็นมิตร จึงรักษากับคุณหมอยาวเลย

   อยากฝากถึงเพื่อนๆ ผู้หญิงทุกคนนะคะ เพราะ เราไม่รู้หรอกว่าภายในเป็นอะไรถ้าไม่ได้สังเกต เช่น เรื่องปวดท้อง บางทีเราก็คิดว่าทนได้แต่อย่างน้อยลองมาปรึกษาหมอดู อย่านิ่งนอนใจ เพราะเราเองตั้งแต่เด็กจนสาว ไม่เคยตรวจภายในเพราะมั่นใจมาก นี่ถ้าไม่คิดจะมีลูกก็คงไม่มาหาหมอสูติหรอก(ยิ้ม)

   แต่ตอนนี้ความคิดเปลี่ยนไป การพบแพทย์ไม่ใช่เรื่องใกล้ตัวและน่ากลัว ตอนนี้ฝากทั้งชีวิตไว้ที่โรงพยาบาล  นนทเวช ไม่ไปไหนแล้ว และไม่กลัวกับการตรวจสุขภาพ ความคิดมันเปลี่ยนนะ พอเราได้ผ่านเเหตุการณ์ช่วงวิกฤติของชีวิตมา เลยซึ้งแล้วกับคำว่า “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” จริงๆ ค่ะ